สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในกรีซ GREECE

กรุงเอเธนส์ (Athens)

เอเธนส์ ชื่อนี้ ใครหลายๆ คนจะต้องเคยได้ยินกันอย่างแน่นอนใช่ม้า เพราะเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโลก มีประวัติมายาวนานหลายพันปี เป็นแหล่งกำเนิดและจุดเริ่มต้นของอารยธรรมตะวันตก และเป็นต้นกำเนิดของประชาธิปไตย โดยตั้งชื่อเมืองตามอาธีนา เทพเจ้าที่ชาวกรีกนับถือ แต่กว่าจะได้ชื่อนี้มานั้นไม่ใช่ง่ายๆ นะค้า ตามตำนานได้บอกไว้ว่า

ตั้งแต่สร้างเสร็จใหม่ๆ เมืองนี้ยังไม่มีชื่อและเทพเจ้าประจำเมืองที่จะคอยคุ้มครองปกป้องและเป็นที่พึ่งทางใจให้กับชาวเมือง เหล่าเทพและเทพีจึงมาแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งเทพเจ้าประจำเมืองกันมากมายค่ะ สุดท้ายก็เหลือเพียง องค์คือ เทพเจ้าโพไซดอน (Poseidon) เทพแห่งมหาสมุทร และ เทพีอะธีน่า (Athena) เทพีแห่งปัญญา และได้ให้เทพเจ้าซุส (Zeus) ผู้เป็นราชาของเทพเจ้าทั้งหมดมาตัดสิน โดยให้เนรมิตของ อย่างแก่ชาวเมือง และให้ชาวเมืองเลือกกันเองว่าจะให้ใครเป็นเทพเจ้าประจำเมือง   เทพเจ้าโพไซดอนจึงสร้างม้าขึ้นมา ชาวเมืองก็พากันชื่นชมกันยกใหญ่ ส่วนเทพีอะธีน่าได้เนรมิตต้นมะกอกขึ้นมา ซึ่งเป็นต้นไม้ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน และยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ในขณะที่ม้าดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของสงครามซะมากกว่า ชาวเมืองจึงพร้อมใจกันยกให้เทพีเป็นผู้ชนะและตกลงใช้ชื่อเมืองว่า เอเธนส์ ตามชื่อของเทพีอะธีน่านั่นเองค่า และมะกอกก็กลายเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญอันดับหนึ่งของกรีซมาจนถึงปัจจุบัน

ต่อมาได้สร้างมหาวิหารขึ้นเพื่อบูชาเทพีเอธีน่า คือ วิหารพาเธนอน สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรีซ อยู่ที่อะโครโปลิส (The Acropolis) ป้อมปราการที่อยู่บนเทือกเขาสูง ตั้งอยู่บนหินที่โผล่ขึ้นมาเหนือเมืองเอเธนส์ และได้สร้างรูปปั้นเอธีน่าไว้ภายในมหาวิหาร แต่ก็ได้หายไปในยุคไบแซนไทน์ซึ่งในยุคเกือบ 3000 ปี การสร้างสถาปัตยกรรมที่งดงามและสมบูรณ์ได้ขนาดนี้ ถือว่าสุดยอดมากก 10 10 10 ไปเลยค่า แสดงให้เห็นถึงความสามารถของสถาปนิกในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2530 ด้วย

 

ถ้ำสีน้ำเงิน (Blue Grotto)

กรีซมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามเยอะมากและอีกที่หนึ่งที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ถ้ำสีน้ำเงิน (Blue Cave) แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและฮิตฮอตสุดๆ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของกรีซ เป็นการสร้างสรรค์ของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ และหาดูไม่ได้ง่ายๆ 

ถ้ำหินปูนสีขาวอันแข็งแกร่ง ด้านหน้าเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลกลายเป็นซุ้มประตูทางเข้าที่สวยงาม ต้องนั่งเรือเล็กๆ เข้าไปเท่านั้น เมื่อเข้าไป สิ่งที่เห็นอย่างแรกคือ ทะเลสีฟ้าอันเงียบสงบ น้ำใสกิ๊งๆๆ เหมือนหลุดไปอีกโลกนึงเลยค่า เวลาที่เหมาะแก่การมาที่สุดคือช่วงเช้าค่ะ เพราะเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ใกล้กับพื้นผิวทะเล จะเกิดการหักเหของแสง แสงแดดอ่อนๆ สะท้อนกับน้ำทำให้เป็นประกายสีฟ้าคราม สวยงามมากกก

ภายในถ้ำมีความสูง เมตรเหนือน้ำทะเล สามารถลงเล่นน้ำ ดำน้ำดูปลา ดูเต่าทะเลได้ ใกล้ชิดธรรมชาติที่ซู้ดดดด ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และเป็นความทรงจำที่จะไม่มีวันลืม

 

 

 

ซาคินทอส (Zakynthos)

 

ซาคินทอส หนึ่งใน หมู่เกาะในเขตทะเลไอโอเนียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสวยแห่งหนึ่งของโลก! อยู่นอกฝั่งตะวันตกของประเทศกรีซค่ะ มีชื่อเสียงในเรื่องความงามของธรรมชาติ เพราะเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายนุ๊มมมนุ่ม สีขาวสะอาด โอบล้อมด้วยหน้าผาสีขาวสูงชัน ปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียว และยังปลูกองุ่นไว้ใช้ผลิตไวน์

กิจกรรมที่นิยมกันก็คือ เล่นน้ำ อาบแดด เดินเล่นชิลชิลชมทัศนียภาพความสวยงามรอบๆ เกาะ ชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะไบแซนไทน์ และช็อปปิ้งของดีท้องถิ่นต่างๆ แวะนั่งจิบกาแฟที่คาเฟ่ริมทางไปเพลินๆ หรือสายตื่นเต้นเชิญทางนี้เลยจ้า การกระโดดดิ่งพสุธา โดยหน้าผาที่นี่สูงชันติด 1ใน10 Incredible BASE jump exits ของโลกอีกด้วย เป็นสถานที่นักดิ่งพสุธาจากทั่วโลกนิยมเดินทางมา

จุดเด่นของเกาะซาคินทอสก็คือ หาดนาวาจิโอ หรือ หาดซากเรือแตก (Navagio Beach or Shipwreck Beach) เป็นหาดชื่อดังที่มีซากเรืออันโดดเด่นขึ้นมาเกยอยู่บนฝั่ง มาจากผู้ลักลอบขนส่งสินค้าได้มาจอดทิ้งไว้ขณะหลบหนีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ยุค 1980 และถูกใช้เป็นฉากหนึ่งในซีรีส์เรื่อง Descendants of the Sun และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างคือ ไปดูเต่าที่เกาะมาราธอนไอซี (Marathonisi) หรือเกาะเต่า (Turtle Island) ค่า เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งของเกาะซาคินทอส ตัวเกาะมีรูปร่างคล้ายกับเต่า และเป็นที่ที่เต่าทะเลทั้งหลายอาศัยอยู่อีกด้วย

เรียกได้ว่าเหมาะกับการมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ค่า ถือเป็นเมืองตากอากาศสุดเลิศของกรีซ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนเป็นหลักแสนคนต่อปีเลยทีเดียว

มิโคนอส (Mykonos)

มิโคนอส เกาะที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของหมู่บ้านและน้ำทะเลที่ใสปิ๊งๆ อาคารบ้านเรือนสีขาวสะอาด ตัดกับประตูหน้าต่างสีฟ้าสดใส

กิจกรรมยอดฮิตบนเกาะนี้ก็คือ การดำน้ำลึก พายเรือ เล่นวินเซิร์ฟ ขี่เจ็ตสกี หรือจะนั่งชิลๆ ชมวิวทะเล 

ถนนของที่นี่จะ เหมือนเขาวงกตเล็กๆ เดินไปตอนแรกเหมือนจะหลง แต่สักพักจะพบว่าถนนทุกสายนั้นได้เวียนมาบรรจบเป็นเส้นเดียวกันค่า หรือถ้าหลงจริงๆ ก็ไม่กลัว เพราะทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่เต็มไปหมด อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย มีร้านให้เลือกนับไม่ถ้วน เดินได้ทั้งวัน ตกกลางคืนผู้คนจะแห่มาที่บาร์หรือไนท์คลับที่มีอยู่เยอะมาก สถานบันเทิงที่นี่เค้าก็ดังค่ะ เปิดเพลงดังในเรื่องความน่าตื่นเต้นและเป็นที่นิยมของชาวสีม่วง มานั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ นั่งพูดคุยกับเพื่อนฝูง มีคนบอกว่าขนาดมาคนเดียวยังได้เพื่อนใหม่กลับไป สามารถนั่งได้จนถึงเช้าเลย

และที่สำคัญอย่าลืมแวะมาที่กังหันลมมิโคนอส อยู่บนเนินเขาสูงของเมือง โดดเด่นมองเห็นมาแต่ไกล มีอายุกว่า 400 ปี ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งมิโคนอส คือถ้ามาแล้วไม่ได้แชะภาพกลับไป ก็เหมือนมาไม่ถึงนั่นเอง

การเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ บนเกาะนั้นมีทั้งเดินเท้า แท็กซี่ เช่ารถ สกู๊ตเตอร์ จักรยาน หรือจะนั่งรถประจำทางก็มีให้บริการตลอด แถมไม่แพงด้วยโดยช่วงที่เหมาะแก่การมาเที่ยวที่สุดคือระหว่างเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน เพราะอากาศกำลังอุ่นพอดีและชายหาดก็ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน

 

 

แพทโมส (Patmos)

 

แพทมอส หรือที่รู้จักกันในชื่อเยรูซาเล็มแห่งทะเลเอเจียนนั่นเองค่า เป็นเกาะเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยตำนานกรีกโบราณและประวัติศาสตร์ที่สำคัญอยู่มากมาย

เมื่อมาถึงเกาะแห่งนี้ สถานที่แรกที่ต้องมาเยือนเลยก็คือ พระอารามแห่งนักบุญเซนต์จอห์น (Monastery of Saint John the Theologian) เป็นพระอารามในนิกายกรีกออร์ธอดอกซ์ (Greek Orthodox) ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนภูเขาเหนือตัวเมือง มองเห็นได้ชัดมาแต่ไกล ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1088 มีความเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ เพราะเป็นสถานที่นักบุญจอห์นได้เขียนพระคัมภีร์ของคริสต์ศาสนาเล่มสุดท้าย (The Island of Apocalypse) ไว้ ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญและเรียนรู้ของนิกายกรีกออร์โธดอกซ์และคริสเตียนส่วนพระคัมภีร์นั้นได้เก็บรักษาไว้ที่ถ้ำแห่งวิวรณ์ (Cave of the Apocalypse) ต่อมาในปี ค.ศ. 1999 องค์การยูเนสโกได้รับรองให้เป็นมรดกโลกร่วมกันกับพระอารามแห่งนักบุญเซนต์จอห์นอีกด้วยและที่เกาะแพทมอสยังโดดเด่นในเรื่องของบ้านเรือนสีขาวสไตล์เอเจียน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนอยู่ไม่ขาดสาย เป็นเกาะที่เงียบสงบ น้ำทะเลสีฟ้า มีท่าเรือขนาดเล็กๆ และที่พักตากอากาศยอดนิยม เดินเล่นชมเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของระลึกจำนวนมาก เหมาะแก่การมาพักผ่อนชิลๆ

 

เที่ยวครีต  (Crete)

เกาะครีต เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในกรีซ และเป็นหนึ่งใน เกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยค่า มีพื้นกว้างขวางเหลือเฟือมากๆ มีวิวชายฝั่งทะเลที่สวยงาม อากาศก็ดี๊ดี ชายหาดเงียบสงบและสะอาด มีหมู่บ้านสวยๆ และภูเขาสูงชันอันอุดมสมบูรณ์ที่เรียงรายไปด้วยต้นมะกอก พืช ผลไม้ และดอกไม้ที่มีเฉพาะเกาะแห่งนี้ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพร น้ำผึ้ง น้ำมันมะกอก ชีสเพื่อสุขภาพ และไวน์ที่อร่อยระดับโลก

มีร่องรอยทางโบราณคดี และอารยธรรมที่ยอดเยี่ยมที่มีมาตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์อยู่มากมาย นับเป็นอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของกรีก มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของกรีซในปัจจุบัน ถือเป็นสวรรค์ของนักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์เลยล่ะ

และที่นักท่องเที่ยวนิยมมาก็คือ เมืองฮีราคลีออน (Heraklion) เมืองหลวงของเกาะครีตที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ ของประเทศ เป็นเมืองที่คึกคักมากค่ะ เต็มไปด้วยร้านค้าเรียงรายเต็มสองข้างทาง มีตั้งแต่สินค้าแบรนด์ดังๆ ไปจนสินค้าพื้นเมือง ร้านกาแฟ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน ยังไม่หมด ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น พระราชวังโบราณ Knossos, พิพิธภัณฑ์โบราณคดีปราสาทยุคไบเซนไทน์หมู่บ้านเก่าป้อมปราการโบราณกำแพงเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่มานานกว่า 400 ปี ให้ทุกคนได้เที่ยวกันอย่างหนำใจ

 

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยท่องเที่ยว ติดตาม

M.O.TOURANDSERVICE CO.LTD www.tourandservice.com

license no.11/04924

incentive group tour,เที่ยวแบบครอบครัว เที่ยวเป็นคณะ private

ศูนย์รวมทัวร์ดีมีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ

sport day ,walk rally, car rally ,boat rally สัมนาพัฒนาองค์กร

คิดถึง tourandorganize คิดถึงความสุข นึกถึงเรา M.O.TOURANDSERVICE

  Hotline 0851635888 0852415888